#กระสามิน
Story: HeronMIN
By: FOR2MIN🌸
Ship: MinGa/JimSu (Jimin x Yoongi)
#กระสามิน
12.00 A.M.
กระสามิน กำจัดพัคจีมินให้เร็วที่สุด
ข้อความแจ้งเตือนจากหน้าจอโทรศัพท์เครื่องหรูทำให้เจ้าของนิ่งไปในทันที
มินยุนกิ
อายุ 25
ปี อาชีพ : สายลับ
หรือถ้าให้พูดกันไปตามความจริงแล้วก็คือสายสืบข่าวของแก๊งนกกระสา
ถ้านับย้อนไปเมื่อแปดเดือนก่อนที่ยุนกิแฝงตัวเข้ามาในแก๊งงูนิลเพื่อส่งข้อมูลไปให้กับแก๊งนกกระสาที่ตัวเองสังกัดอยู่แล้วก็ไม่เคยคิดจะทรยศแม้แต่น้อย
เพราะถ้าไม่ได้หัวหน้าแก๊งนกกระสาเลี้ยงไว้ป่านนี้ยุนกิคงกลายเป็นแค่คนจรจัดใต้สะพานเท่านั้น
ถ้านับย้อนไปเมื่อแปดเดือนก่อนก็คงจะทำได้ง่ายๆเหมือนยกปืนขึ้นมาเป่าหัวใครสักคนเล่นอย่างที่ชอบทำ
แต่ทว่า
ยุนกิถอนหายใจก่อนจะกดลบข้อความนั้นออกไปเพื่อทำลายหลักฐาน
วางโทรศัพท์ที่ส่งผลต่อความตึงเครียดของตัวเองลงก่อนจะหยิบปืนที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมาแทน
มือเรียวขาวลูบไปตามรูปร่างของทรงปืน รูปงูที่ถูกสลักไว้ที่ปลายด้ามสะท้อนแสงวาววับกับแสงไฟจากเพดาน
ตาเรียวคมไล่สายตาไปตามลายเกล็ดงูสีดำสนิทที่ถูกสลักไว้อย่างประณีต
ให้ตายเหอะ
ใบหน้าพร้อมรอยยิ้มของหัวหน้าแก๊งงูนิลอย่างพัคจีมินลอยขึ้นมาอย่างไม่ได้ตั้งใจจะนึกถึงสักนิด
ยุนกิกดปลดเซฟตี้ก่อนจะเล็งปลายกระบอกปืนไปที่พนังห้องวางเปล่าสีเทาอ่อน
หรี่ตาลงข้างหนึ่งเพื่อเล็งเป้าหมายก่อนที่ปากสวยจะเปล่งเสียงที่คล้ายกับเสียงปืนออกมาเบาๆ
ปัง
ยุนกิลืมตาข้างที่หรี่ลงขึ้นก่อนจะเดาะลิ้นกับกระพุ้งแก้มแล้วหัวเราะออกมาเบาๆ
กดเซฟตี้ปืนไว้เช่นเดิมแล้ววางมันลง พิงหลังลงกับโซฟานุ่มแล้วหลับตาลงอย่างครุ่นคิด
ยุนกิที่เคยเด็ดเดี่ยวและไม่สนใจใคร
แต่ตอนนี้มันกลับไม่ใช่แบบนั้นเลยสักนิด คนในแก๊งงูนิลดูแลยุนกิดีมากจนน้ำแข็งในใจมันละลายไปอยู่ไม่น้อย
บางทียุนกิก็คิดว่าตัวเองกลายเป็นคนของแก๊งงูนิลไปแล้วหรือเปล่า
ยุนกิเข้ามาในแก๊งนี้ได้เพราะการแสดง
หมายถึงการแสดงที่สายลับควรจะมีและฝีมือที่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดีจากแก๊งนกกระสา
มีทั้งทักษะที่เป็นการต่อสู้เฉพาะของแก๊งนกกระสาและการต่อสู้ขั้นสูงของแก๊งอื่น
จะว่ายังไงดีแก๊งงูนิลไม่ใช่แก๊งแรกที่ยุนกิแฝงตัวเข้าไป ยุนกิมักจะใช้ทักษะการต่อสู้แบบประชิดตัวเพราะเป็นการต่อสู้ที่ยุนกิถนัดมากที่สุดและยังไม่เสี่ยงจะถูกจับได้ว่ามาจากแก๊งไหนเพราะเป็นการต่อสู้ขั้นพื้นฐานทั่วไปที่เหล่ามาเฟียควรจะมี
ในที่สุดวันที่ยุนกิรอคอยก็มาถึงและเหมือนโชคจะเข้าข้างยุนกิไม่น้อยเมื่อจองกุกน้องชายของจีมินดันโผล่เข้ามาอย่างกลับวางพล็อตเรื่องไว้
และยุนกิก็สร้างความประทับใจจนได้เข้ามาเป็นมือขวาของจองกุก
นั่นเป็นแค่ขั้นตอนแรกเท่านั้นเพราะเป้าหมายของยุนกิคือพัคจีมินพี่ชายของจองกุกต่างหาก
ยุนกิทำให้ใครต่อใครในแก๊งงูนิลไว้ใจอย่างง่ายดายด้วยการกระทำและรอยยิ้มจอมปลอม
รอยยิ้มที่ยุนกิไม่ชอบที่จะแสดงออกมาบนใบหน้าแต่ก็ต้องทำจนบางวันก็รู้สึกปวดหน้าไปหมด
และกฎเหล็กของการเป็นสายลับ
สิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้น
การหวั่นไหวหรือการตกหลุมรัก
ย้อนไปเมื่อห้าเดือนก่อนหน้านี้ที่แก๊งงูนิลปะทะกับแก๊งนกกระสาและยุนกิก็พลาดท่าจนโดนพวกฝีมือดีของแก๊งนกกระสารุมอาการสาหัส
ถ้าจีมินและจองกุกไม่เข้าไปช่วยก็คงกลายเป็นศพไปแล้ว
ตำแหน่งสายลับของแก๊งคือการกลายเป็นบุคคลไร้ตัวตนแต่มีอยู่จริง
จับต้องได้แต่ไร้ร่องรอยให้ตามหา ในแก๊งจะมีไม่กี่คนที่รู้จักหน้าตาของสายลับ
เช่นพวกหัวหน้าหรือคนใกล้ตัวหัวหน้าเท่านั้นเพื่อให้ง่ายต่อการปลอมตัวเข้าไปสืบข่าว
หากมีคนรู้จักมากไปคงได้ความแตกเร็ววันแน่นอน
หลังจากลากยุนกิที่สภาพเละมากกลับมาจีมินก็เฝ้าประคบประหงมอย่างดีจนอะไรมันเลยเถิดไปมากกว่าที่เป็นอยู่
ยุนกิไม่ได้ตั้งใจจะปล่อยให้อะไรมันเกิดขึ้น แต่จีมินในตอนนั้นบวกกับการเอาใจใส่อยู่ไม่ห่าง
ไม่ยอมไปประชุมแก๊งเอาแต่เฝ้าดูแลยุนกิจนจองกุกต้องเดือดร้อนออกโรงแทนพี่ชายอยู่เกือบเดือน
และผลสุดท้ายจองกุกเลยต้องยกยุนกิให้มาเป็นมือขวาของจีมินแทน
และนั่นมันเข้าทางยุนกิที่จะสืบข่าวได้มากกว่าเดิมแต่ก็เสียตรงที่ยุนกิเกิดไปรู้สึกกับจีมินเข้าให้
ถึงจะไม่มากถึงกับเรียกว้าชอบหรือรัก
แต่มันก็ทำให้ขัดอะไรหลายอย่างที่ควรทำได้เหมือนกัน
ยุนกิพยายามจะปฏิเสธและโยนความรู้สึกนี้ทิ้งไป
ความรู้สึกแปลกๆเวลาจีมินมาจับต้องร่างกายของยุนกิหรือเวลาที่สายตาคู่นั้นมองมา
มันใสจนสะท้อนเงาของยุนกิในนั้นอย่างชัดเจน
และมันก็แปลกไปทุกครั้งที่จ้องมองมาที่ยุนกิ
เหมือนต้องการอะไรสักอย่างที่ตัวยุนกิเองก็ไม่แน่ใจ แต่มันกลับไม่ง่ายอย่างที่คิด
ทุกครั้งที่เจอหน้าจีมิน หมอนั้นก็ชอบทำตัวรุ่มร่ามเข้ามาอยู่ใกล้ๆและเอาแต่กวนประสาทแถมยังชอบแกล้งจนยุนกิเกือบจะเผลอตัวเล็งกระบอกปืนใส่อยู่หลายรอบถ้าไม่มีคำว่าภารกิจมันมาค้ำคออยู่
สถานะของเขากับจีมินมันค่อนข้างซับซ้อนและเข้าใจยาก
พออยู่กันสองคนจีมินชอบทำตัวรุ่มร่ามและหื่นกาม
ซึ่งยุนกิก็ปฏิเสธไปได้หลายครั้งแต่ก็พลาดท่าไปอยู่เหมือนกันแต่ก็เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
จองกุกก็ชอบเอ่ยแซวต่อหน้าลูกน้องคนอื่นจนรู้สึกอยากจะยิงให้หัวทะลุไปเลยแต่ติดที่ว่ามันทำแบบนั้นไม่ได้เพราะได้รับยกย่องเป็นผู้มีพระคุณที่ตกหลุมบทบาทการแสดงของยุนกิเข้าให้
“ยุนกิ”
เสียงเรียกทำให้ยุนกิตื่นขากภวังค์ก่อนจะสบสายตาเข้ากับหัวหน้าแก๊งงูนิลในชุดอาบน้ำผ้ามันเลื่อมสีดำ
“มีอะไรให้ผมทำหรอครับ”
เอ่ยถามออกไปตามมารยาทและความเคยชิน
“วันนี้อากาศดี”
รอยยิ้มไร้พิษภัยถูกส่งมาแต่ยุนกิรู้ว่ามันไม่ใช่แบบนั้นหรอก
หัวใจเริ่มเต้นจังหวะแปลกๆเมื่อรู้ดีว่าจีมินหมายถึงเรื่องอะไร
“ผมบอกให้คุณไปซื้อผู้หญิงตามถนนเอาไง”
ยุนกิยกปืนขึ้นมาก่อนจะเล็งไปทางจีมิน
“พวกชั้นต่ำแบบนั้นน่ะหรอ”
จีมินหัวเราะเบาๆก่อนจะเดินเข้ามาหายุนกิโดยไม่เกรงกลัวปืนที่อยู่ในมือยุนกิแม้แต่น้อย
“ผมก็ต่ำ
มาจากข้างถนนเหมือนกัน”
ยุนกิหรี่ตาลงเล็กน้อยเมื่อจีมินเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าจนปลายกระบอกปืนจ่ออยู่ที่หน้าท้องของเจ้าตัว
“งั้นหรอ”
จีมินยกยิ้มแบบที่เจ้าตัวชอบทำ
“มันหมดเวลางานผมแล้วนะครับคุณพัค”
ยุนกิเอ่ยย้ำเรียกสติจีมิน
“ยุนกิ”
“ครับ?”
“เฮ้ย”
ยุนกิอุทานเสียงดังที่จู่ๆจีมินก็ปัดปลายกระบอกปืนอย่างแรงจนมันหลุดออกจากมือยุนกิ
ยุนกิเป็นสายสืบก็จริง ฝีมือการป้องกันตัวก็มีแต่ก็ไม่ได้เก่งระดับหัวหน้าแก๊งแบบจีมินหรอก
“อึก”
ยุนกิขมวดคิ้วแน่นเมื่อจู่ๆจีมินก็โถมตัวเข้าใส่
ร่างหนักอึ้งนั่งทับลงบนตักของยุนกิจนรู้สึกปวดขา
“จะซื่อสัตย์กับฉันใช่ไหม”
จีมินเอ่ยถามพร้อมกับยกมือขึ้นบีบคางสวย ยุนกิใช้มือทั้งสองข้างจับมือจีมินที่กำลังบีบคางเข้าอยู่อย่างทำอะไรไม่ได้
แรงยุนกิสู้แรงจีมินไม่ได้ถึงจะรูปร่างไม่ต่างกันเท่าไหร่นัก
แต่จีมินน่ะแรงเยอะกว่าเป็นไหนๆ
“แล้วทำไมผมต้องไม่ซื่อสัตย์”
ยุนกิเอ่ยถามออกไปอย่างยากลำบากเพราะรู้สึกเจ็บคางและความกังวลกลัวว่าจีมินจะรู้เรื่องที่เขาเข้ามาเป็นไส้ศึกให้แก๊งนกกระสาจะแตก
พยายามนิ่งที่สุดเท่าที่จะนิ่งได้
“ไม่รู้สิ”
จีมินยอมปล่อยมือออกจากคางสวยก่อนจะกดจูบลงกับแก้มนิ่มเบาๆ
แน่นอนว่ายุนกิก็เอียงหลบอีกตามเคยแต่สันจมูกโด่งๆของอีกคนก็สัมผัสโดนผิวแก้มของยุนกิอยู่ดี
“อย่าทรยศฉันล่ะยุนกิ”
จีมินเอ่ยพร้อมกับสบสายตายุนกิตรงๆ
“ฉันต้องการยุนกิ”
จีมินเม้มปากเล็กน้อยก่อนจะพูดต่อให้จบ
“อยากให้อยู่กับฉันไปตลอด”
แล้วก็คงเป็นคำพวกนี้ด้วยละมั้งที่ทำให้ยุนกิลังเลแบบนี้
“หนัก”
ยุนกิพึมพำเบาๆจนได้ยินเสียงหัวเราะจีมินเป็นการตอบรับเบาๆแล้วจึงลุกออกไป
จีมินพลิกตัวลงไปนอนบนโซฟา ทิ้งหัวทุยลงกับหน้าขาเล็กๆของยุนกิแล้วหลับตาลง
“ถ้าเวลาแบบนี้มันยาวนานก็คงดี”
จีมินยื่นมือขึ้นมาคว้ามือยุนกิไปแนบกับแก้มของตัวเองก่อนจะกดจูบกับหลังมือขาวเบาๆหนึ่งที
ความอุ่นนิ่มของปากอวบอิ่มเล่นเอายุนกิขนลุก
จีมินพอเวลาอยู่สองคนแบบนี้ก็กลายเป็นเพียงเด็กเล็กๆคนหนึ่งที่อยากเอาแต่ใจและออดอ้อนจนบางครั้งยุนกิก็ต้องโอนอ่อนตามไปด้วย
ในขณะที่ต่อหน้าคนอื่นกลับน่าเกรงขามอย่างกับเป็นคนล่ะคน
“ยุนกิ”
“ครับ?”
“เลิกเป็นมาเฟียแล้วหนีไปนอนตีพุงเล่นแถวไมอามี่กันดีไหม”
จีมินลืมตาขึ้นมาสบกับคนที่มองเขาอยู่ก่อนด้วยสายตาแปลกๆ
“แล้วไมอามี่มันไม่ใช่ดินแดนมาเฟียหรอครับคุณพัค”
ยุนกิกรอกตา
“แต่ถ้ามีนายฉันก็อยากไป”
“เลิกหยอดเถอะครับผมไม่หวั่นไหวกับคำพูดพวกนี้หรอก”
สะที่ไหนล่ะ
“ยุนกิ”
“ครับ”
“ต้องการอะไร”
“ครับ?”
ยุนกิเลิกคิ้ว พยายามโฟกัสสายตาไปยังกำแงสีเทาอ่อน ถ้ามองตาจีมินตอนนี้เขาอาจจะหลุดพิรุธอะไรออกไปได้
“นายต้องการอะไร”
“ต้องการอะไรที่ว่าหมายถึงอะไรครับ”
ต้องเล่นตามน้ำไปก่อน
“ไม่รู้สิ”
ยุนกิเลิกคิ้ว
“ฉันก็ไม่รู้”
ยุนกิก้มลงมามองคนที่หลับตาสนิทอยู่บนตักเขา
“ถ้ายุนกิอยากได้อะไรฉันก็คงให้ได้หมด”
จีมินเอ่ยเสียอื้ออึงเพราะคงเริ่มง่วงแล้ว
“แม้แต่ชีวิต”
ยุนกิชะงักไปทันที ปากเรียวสวยเม้มเข้าหากันอย่างชั่งใจ
“ผมจะเอาไปทำไม”
ยุนกิพูดออกไปแบบนั้นแต่ในใจกำลังสับสนอย่างบอกไม่ถูก
“อื้อ”
เสียงครางเบาๆในลำคออีกคนดังขึ้นเป็นการบอกว่าได้เข้าสู่ห้วงนทราเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ยุนกิถอนหายใจก่อนจะค่อยๆขยับตัวเอาหมอนมาให้จีมินหนุนแทนหน้าตักตัวเองแล้วพาตัวเองออกไปที่ระเบียงห้อง
ซองบุหรี่ถูกหยิบขึ้นมาจากกระเป๋ากางเกงพร้อมกับไฟเช็ก
บุหรี่ถูกจุดพร้อมกับที่มันถูกอัดเข้าปอดอย่างตั้งใจ
ควันสีขาวถูกพ่นจนลอยไปในอากาศ วิวยามค่ำคืนในบ้านหลังใหญ่
บอดี้การ์ดมากมายเดินผ่านกันไปมาเพื่อรักษาความปลอดภัยให้กับมาเฟียใหญ่ที่นอนหลับเหมือนลูกหมาตัวหนึ่ง
ต้องรีบจบเกมนี้ให้เร็วที่สุด
ยุนกิถอนหายใจพร้อมกับกดก้นบุหรี่ที่ถูกดูดจนหมดลงกับที่เขี่ยบุหรี่บนโต๊ะริมระเบียง
หันกลับมาในห้องของตัวเองแล้วก็ถอนหายใจ
อย่างน้อยก็คืนนี้เตียงก็ยังเป็นของเขาอยู่
วันรุ่งขึ้นมาถึงอย่างรวดเร็ว
ยุนกิยืนอยู่ด้านหลังจีมินที่กำลังเจรจาธุรกิจกับแก๊งมังกรแดง
สายตาเรียวคมจดจ้องร่างเป้าหมายอย่างไม่วางตา ความรู้สึกในอกมันตีกันไปมาถึงสิ่งที่สมองกำลังคิด
ภารกิจ หรือ หัวใจ
จนกระทั่งทุกอย่างจบลงการแลกเปลี่ยนซื้อขายจบลงแล้ว
ยุนกิเปิดประตูรถให้จีมินก่อนที่ตัวเองจะเดินไปประจำที่คนขับ รถหรูสีดำสนิทเคลื่อนตัวออกไปได้ไม่นานมันก็ถูกหักเลี้ยวไปคนล่ะทางกับทางกลับบ้าน
เครื่องสื่อสารภายในรถดังขึ้นทันทีที่รถอออกนอกเส้นทาง
จีมินยังคงนิ่งเฉยถึงจะรู้ว่ายุนกิพาออกนอกเส้นทาง
‘นั่นไม่ใช่ทางกลับบ้านนะคระบคุณยุนกิ’ เสียงจากเครื่องมือสื่อสารสีดำสนิทดังขึ้น ยุนกิกัดฟันก่อนจะตอบออกไป
“คุณจีมินจะแวะไปทำธุระส่วนตัว”
“รับทราบ”
อีกฝั่งตอบกลับมาอย่างไม่ได้สงสัยอะไรมากนักเพราะจีมินก็มักจะทำอะไรแบบนี้บ่อยๆมันเลยไม่ยากที่ยุนกิจะโกหกออกไป
“จะชวนเดทหรอ”
เสียงถามติดตลกที่ดังมาจากข้างหลังเอ่ยขึ้น ยุนกิเม้มปากก่อนจะตอบกลับไป
“ไม่เชิงครับ”
“จะยอมตายก็ได้ถ้ายุนกิยอมบอกฉันสักครั้ง”
ยุนกิเลิกคิ้วก่อนจะตบไฟเลี้ยวเข้าข้างทางที่ไม่มีรถผ่านไปมาเท่าไหร่นัก
ปลายกระบอกปืนเก็บเสียงถูกยืนไปหาคนที่นั่งอยู่เบาะหลังแต่ก็ต้องตกใจเมื่อข้อมือขาวถูกดึงอย่างแรงจนหน้าคว่ำเสียหลักจมไปกับอกอีกคน
จีมินออกแรงดึงยุนกิจนทั้งตัวของอีกคนถูกย้ายมาอยู่เบาะหลังอย่างเต็มตัว
แขนแกร่งกดลำตัวอีกคนแนบกับเบาะหลัง
ปลายกระบอกปืนจ่อมาที่หน้าผากสวยที่ถูกเปิดรับอากาศและกระจายความหล่อที่พ่อให้มาแบบไม่เผื่อใคร
สายตาคมรอบมองคนข้างใต้ที่จ่อปืนเข้าหาเขาอย่างพินิจพิจารณา
“คำถามสุดท้าย ก่อนที่กระสุนของนายจะเจาะผ่านตัวฉัน”
ปากอวบอิ่มเอ่ยขึ้น
“รู้มาตลอดสินะ”
ยุนกิจ้องกลับอย่างไม่วางตา
“เปล่า
รู้ก่อนหน้านี้ไม่นาน” จีมินยิ้ม
“แล้วทำไมยังปล่อยมาถึงตอนนี้”
“นายเป็นสายลับที่เก่งนะกระสามิน”
จีมินยิ้มพร้อมกับหัวเราะเบาๆ
“...”
“ช่วยตอบมาที...นายรู้สึกยังไงกับฉัน”
จีมินเอ่ยถามออกไปตามตรง การจัดการจีมินไม่ใช่เรื่องง่าย
แค่เรื่องพละกำลังยุนกิสู้ไม่ได้หรอกอันนี้ยอมรับ แต่เรื่องการเอาตัวรอดและความเนียนยุนกิก็มั่นใจในฝีมือตัวเองไม่น้อย
ถ้าจีมินรู้มาได้สักพักแล้วก็แปลว่าอีกฝ่ายกำลังแกล้งเล่นละครกลับใส่เขาเหมือนกัน
และยุนกิเชื่อว่าจีมินไม่ยอมตายง่ายๆหรอก
“แค่ศัตรูที่ต้องกำจัดก็เท่านั้น”
ยุนกิตอบกลับไปเสียงเรียบ จีมินนิ่งไปหลายวินาทีก่อนที่เจ้าตัวจะเลื่อนหน้าเข้าหายุนกิที่ยังคงจ่อปืนไวที่หัวของอีกคน
ปลายกระบอกปืนถูกลดลงจนมือของอีกคนปัดออกไปเหลือเพียงช่องว่างเพียงไม่กี่เซ็นระหว่างใบหน้าของทั้งคู่
“งั้นเหรอ”
พูดจบริมฝีปากหนาก็กดจูบลงกับริมฝีปากบางของมือขวาตัวขาวซีด ไล่ต้อนลิ้นร้อนของอีกฝ่ายไปทั่วปากจนหมดหนทางจะหนี
พอถอนริมฝีปากออกน้ำลายที่บ่งบอกถึงความเร้าร้อนของจูบเมื่อครู่ก็ยืดไปตามช่องว่างระหว่างปากของทั้งคู่ที่แยกออกจากกัน
“ปากไม่ตรงกับใจจริงๆนั่นแหละ”
จีมินกระซิบเสียงเบา
“...”
ยุนกิเงียบไม่ได้ตอบอะไรกลับไป
“Let
me fuck you and I will give you my life.” (ยอมฉันแล้วฉันจะให้ชีวิตฉันกับนาย) จีมินกระซิบบอกข้างหูอีกคน
“ผมไม่จำเป็นที่จะต้องทำมันในเมื่อปืนอยู่ในมือผมแล้ว”
ยุนกิย้อนกลับ
“ของขวัญให้คนตายไง”
จีมินหัวเราะเบาๆก่อนจะกดจูบลงกับแก้มของอีกคน
“ปลอบใจคนใกล้ตายหน่อยสิกระสามิน
ฉันเตรียมตัวมาก็เพื่อวันนี้เลยนะ” จีมินยิ้ม ยุนกิเม้มปากอย่างคนสับสนอยู่ในหัว
เขากำลังชั่งน้ำหนักคำว่า ภารกิจ กับ สิ่งที่ต้องการ อยู่ในหัว
ทุกอย่างมันเกิดขึ้นและจบลงด้วยเสียงปืนเพียงนัดเดียว
เลือดสีเข้มไหลไปตามเบาะพรมกำมะหยี่สีดำราคาแพง
ทุกอย่างจบลงแล้ว
กระสามิน:
ภารกิจเสร็จสิ้น
🔼🔽🔼🔽🔼FIN🔽🔼🔽🔼🔽
#FOR2MINSF ตอนกระสามิน
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น