#คุณพ่อฝึกหัด
Story: NEW DADDY 💕
By: FOR2MIN🌸
Ship: MinGa/JimSu (Jimin x Yoongi)
“เฮ้อ” จีมินถอนหายใจเป็นรอบที่สามสิบของวันแล้ว มองไปยังหนทางข้างหน้าแล้วก็ปวดหัวใจเล็กน้อย บันไดยาวนับยี่สิบขั้นยิ่งทำให้จีมินรู้สึกท้อแท้อย่างบอกไม่ถูก หันไปมองรถเข็นเด็กอ่อนพร้อมกับลูกชายของเขาที่นอนมองตาแป๋วสลับกับขั้นบันไดตรงหน้าแล้วก็ถอนหายใจอีกครั้ง หันไปมองรอบๆก็ไม่มีทางอื่นนอกจากลงบันไดนี่ไปเพื่อขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดินในการกลับไปบ้าน แต่วันนี้จีมินไม่ได้ตรงกลับบ้านเลยแต่มีนัดทานข้าวนอกบ้านกับเพื่อนของเขาและยุนกิจะตามมาสมทบทีหลังหลังจากเลิกงาน ผู้คนมากมายเดินผ่านเขาไปอย่างเร่งรีบเพราะทุกคนก็คงอยากกลับบ้านเร็วๆเหมือนกัน
พัคจีมิน อายุ 20 ปี สถานะเป็นอัลฟ่าพ่อลูกอ่อนและสามีมือใหม่ของโอเมก้าที่ชื่อมินยุนกิคู่เมทของเขาที่อายุห่างกัน 11 ปี ใช่แล้วมินยุนกิอายุ 31 ปี เรื่องมันเกิดตอนวันจบการศึกษาของจีมิน ตอนนั้นจีมินก็อายุประมาณ 18 ปี เด็กหนุ่มที่เพิ่งจบจากโรงเรียนมัธยมมาฉลองกับเพื่อนที่ร้านเหล้าแห่งหนึ่ง เรื่องมันเริ่มจากตรงนั้นแหละ ยุนกิมาดื่มที่ร้านนั้นกับเพื่อนสนิทแบบโฮซอกหลังเลิกงานเช่นกัน
เรื่องมันเกิดในห้องน้ำร้านเหล้าแห่งนั้น จีมินไปเข้าห้องน้ำในขณะที่ยุนกิเดินออกมาจากห้องน้ำพอดี เหมือนโดนฟ้าผ่าความรู้สึกบางอย่างบ่งบอกว่าโชคชะตากำลังทำงาน รู้ตัวอีกทีทั้งคู่ก็เข้าไปอยู่ในห้องน้ำเดียวกัน หลังจากนั้นก็เป็นไปตามคาดหลังคอยุนกิมีรอยขมเขี้ยวฝากไว้ แขนที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามของจีมินมีรอยเล็บข่วนเป็นทางยาว
หลังจากนั้นจีมินก็ตามยุนกิต้อยๆเหมือนอัลฟ่าทั่วไปที่ใหม่ๆก็ทั้งหวงทั้งหลงโอเมก้าของตัวเอง ผ่านไปหนึ่งเดือนยุนกิแทบช็อคกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่ออาการแปลกๆเกิดขึ้นพร้อมกับชีวิตใหม่ที่ถูกเพิ่มเข้ามา ตอนแรกก็เป้ไปแทบไม่เป็นเพราะยังมีงานที่ต้องทำถึงแม้ยุนกิจะไม่ใช่คนรวยอะไรแต่ก็มีเงินเก็บจากการทำงานเป็นโปรดิวเซอร์ให้กับแร็ปเปอร์ชื่อดังอย่างอาร์เอ็มที่ดังเป็นอันดับต้นๆของประเทศอยู่ไม่น้อย ที่จริงเรียกว่าคนรวยซ่อนรูปมากกว่า เป็นโอเมก้าไม่ใช่เรื่องยากในการทำงานเพราะยุนกิมียาชั้นดีไว้จัดการกับอาการต่างๆของโอเมก้า แต่เพราะท้องนี่แหละที่อาจจะกระทบงาน
ตอนจีมินรู้ก็หนีหายไปหลายวันและยุนกิก็ไม่ได้คิดจะแคร์อะไร เขาตั้งใจจะรับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยตัวเองตั้งแต่รู้ว่าจีมินยังเด็กมากขนาดนั้น วันนั้นมันฉุกละหุกมากจริงๆ ไม่มีการป้องกันใดๆมีแต่อารมณ์พาไปล้วนๆ จะมาป้องกันทีหลังก็ไม่ได้เพราะมันเกินเลยไปหมด สุดท้ายจีมินก็กลับมาพร้อมกับกระเป๋าเสื้อผ้าใบโต เด็กหนุ่มเม้มปากแน่นด้วยความกังวล
จีมินโดนไล่ออกจากบ้านเพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ครอบครัวจีมินมีชื่อเสียงและรวยไม่น้อย การที่ลูกชายคนเล็กที่อายุไม่เท่าไหร่ไปทำเรื่องแบบนั้นมันคงเสียชื่อเสียงไม่น้อยเลยโดนไล่ออกมาแบบนั้น จีมินเล่าให้ฟังว่าเจ้าตัวไปเล่าเรื่องยุนกิให้พ่อแม่ฟังและตั้งใจจะมารับผิดชอบยุนกิแต่โดนไล่ออกมาสะงั้น สุดท้ายเลยต้องมาอยู่ด้วยกันแบบช่วยไม่ได้
“มินกิอ่า” จีมินเอ่ยเรียกลูกชายก่อนจะค่อยๆอุ้มลูกชายขึ้นมา แขนซ้ายค่อยๆจับรถเข็นเด็กอ่อนอย่างงงๆกับตัวเองว่าจะทำอะไร
“ให้ช่วยไหมคะ” เสียงถามจากทางด้านหลังเอ่ยถามขึ้น
“เอ่อคือ...” จีมินยิ้มกว้างจนตากลายเป็นเส้นตรง
“ขอบคุณมากนะครับ” จีมินเอ่ยขอบคุณผู้หญิงที่อุตส่าห์ช่วยเขาหิ้วรถเข็นเด็กอ่อนลงมาจากบันไดรถไฟใต้ดิน มินกิลูกชายตัวน้อยถูกวางลงในรถเข็นที่เดิม รอเพียงใม่นานรถไฟขบวนที่ต้องการก็มาถึง จีมินค่อยๆเข็นรถเด็กอ่อนของลูกชายเข้าไปในตู้รถไฟที่ไม่ได้แน่นมากนัก เขาปักหลักตรงที่ใกล้ๆประตูทางออก มือหนึ่งเกาะเสาไว้ส่วนอีกมือหนึ่งจับรถเข็นของลูกชายไว้
“แอ๊ แงงงงงง” เสียงงอแงเริ่มดังขึ้นจนผู้คนเริ่มหันมามอง จีมินเลียริมฝีปากก่อนจะค่อยๆก้มลงปล่อยมือจากเสามาเป็นค้นหาขวดนมตรงตะกร้าใต้รถเข็นแทน พอเจอก็รีบดึงขึ้นมาแล้วเปิดฝาขวดก่อนจะใส่เข้าปากให้ลูกชายดูดทันที เสียงอแงเงียบไปพร้อมกับที่จีมินก้มหัวเอ่ยปากขอโทษคนในตู้รถไฟฟ้าใต้ดินตู้นั้น ไม่มีใครโกรธจริงจังเพราะความน่ารักของใบหน้าจีมินที่ยังดูเด็กและไร้เดียวสา ไหนจะมารยาทและความสุภาพของเขา เป็นใครก็โกรธไม่ลงหรอก
จีมินออกมาเจอบันไดอีกครั้งเล่นเอาเขาถอนหายใจอีกครั้ง และเพราะความมึนๆงงๆของจีมินนั่นแหละที่ทำให้คนแถวนั้นช่วยเหลือเขาอีกครั้ง กล่าวขอบคุณแล้วเข็นรถเข็นของลูกชายไปตามทางเดินที่คุ้นเคย เพราะร้านอาหารที่ต้องการอยู่ตรงหน้าเลยทำให้จีมินรู้สึกดีขึ้นเป็นกอง ในที่สุดก็ถึงแล้วสินะ
“จีมิน มึง ทางนี้” เพื่อนของจีมินเอ่ยเรียกทันทีที่จีมินก้าวเข้าไปในร้าน จีมินยิ้มก่อนจะเข็นรถเข็นไปทางโต๊ะด้านในสุด เขานั่งลงที่ทางอีกฝั่งที่ว่างอยู่ รถเข็นถูกจอดอยู่ด้านข้างจีมิน
“ไงครับคุณพ่อคนหล่อ” เสียงทุ้มเอ่ยแซวขึ้นมาจากเจ้าเด็กหน้ากระต่ายที่เด็กกว่าจีมินสองปีอย่างจอนจองกุก
“ก็เหนื่อยอ่ะดิ กว่าจะมาถึง” จีมินบ่นอุบเล่นเอาซองอุนกับยูคคยอมที่นั่งอยู่ฝั่งเดียวกับจองกุกหัวเราะร่วน
“พ่อลูกอ่อนอ่ะเนอะ” ซองอุนเอ่ยแซว
“กูสั่งอาหารไปแล้วเดี๋ยวคงมา อ่ะ นั้นมาพอดี” พูดไม่ทันขาดคำอาหารก็เริ่มมาเสิร์ฟ และพอจีมินกำลังจะหยิบตะเกียบเพื่อเริ่มทานมินกิก็ร้องขึ้นมา
“แอ๊ แงงงงงงงงงง” จีมินวางตะเกียบก่อนจะหันไปหาลูกชาย หยิบขวดนมที่เก็บไว้ตรงตะกร้าด้านล่างขึ้นมาอีกครั้ง เขาพยายามจะป้อนขวดนมให้ลูกชาย แต่มินกิกลับปัดออก
อ่า มันเย็นสินะถึงได้ไม่กิน
จีมินมองขวดนมในมือแล้วก็เสยผมที่ลงมาปรกหน้าตัวเอง มองไปยังลูกชายที่ยังคงส่งเสียงร้องจนคนในร้านเริ่มหันมามองถึงแม้จะมีไม่กี่โต๊ะก็ตาม จีมินวางขวดนมลงกับโต๊ะ สีหน้าเหนื่อยอ่อนเพราะวันนี้จีมินต้องไปเข้าคลาสฝึกพัฒนาการเด็กแทนยุนกิที่ไปทำงาน เขาร่วมกิจกรรมทั้งวันจนรู้สึกเหนื่อยแต่ก็พักไม่ได้
จองกุกมองจีมินด้วยใบหน้ากังวลพร้อมกับซองอุนและยูคยอมที่เม้มปากอย่างครุ่นคิด
“นมมันเย็นไปแล้วน่ะ มินกิต้องกินนมอุ่นๆ” จีมินเอ่ยบอกก่อนจะพยายามปลดสายรัดที่รั้งตัวลูกชายไว้ไม่ให้ตกจากรถเข็นออก พยายามปลอบแต่มินกิก็ไม่หยุดส่งเสียงร้องสักที
จองกุกคว้ากระป๋องน้ำแข็งที่ว่างเปล่าใต้โต๊ะวางแก้วขึ้นมาก่อนจะโบกมือเรียกพนักงานมาเพื่อขอน้ำอุ่น จีมินพยายามปลอบลูกชายตัวเองโดนการอุ้มขึ้นมานั่งตัก ซองอุนก็พยายามหยอกล้อแต่มินกิก็ยังร้องอยู่ดี จนพอน้ำอุ่นมาถึงจองกุกก็เทลงในกระป๋องน้ำแข็งแล้วเอาขวดนมลงไปแช่ไว้
ไม่นานเกินรอนมก็เริ่มอุ่นจองกุกหยิบขวดนมออกมาส่งให้จีมินที่รับไปป้อนให้ลูกชายทันที
ได้ผล มินกิเงียบไปทันที
“ขอบใจมากนะจองกุก” จีมินกล่าวพร้อมกับยกยิ้มบางเบา
“เอาน่าพี่ มือใหม่ต้องเรียนรู้แก้ปัญหากันไป”
“พวกนายกินกันก่อนเลย เดี๋ยวพี่ยุนกิก็ใกล้มาแล้ว” จีมินก้มลงมองนาฬิกาที่ข้อมือตัวเอง
ทกคนเริ่มลงมือทานอาหาร จีมินก็เช่นกันแต่เขาเลือกทานของที่สามารถตักกินได้ จะให้มาแกะกุ้งทั้งที่ยังต้องอุ้มลูกคงไม่ไหวหรอก ซองอุนแกะกุ้งมาใส่จานจีมินทำให้เจ้าตัวต้องเอ่ยขอบคุณแต่ซองอุนก็พยักหน้าเป็นเชิงบอกว่าไม่เป็นไร
“พี่ยุนกิ” จองกุกเอ่ยขึ้นเมื่อเจ้าของชุดออลแบล็คทั้งตัวได้เดินเข้ามาในร้านแล้ว จีมินยิ้มออกทันทีที่ยุนกิเดินมานั่งข้างๆแล้วรับมินกิไปอุ้มแทน
ทั้งโต๊ะก็คุยกันไปเรื่อยโดยมีจีมินที่คอยป้อนอาหารให้ยุนกิไปด้วย
การเป็นพ่อคนมันไม่ง่ายเลยจริงๆสำหรับจีมิน
🔽🔼🔽🔼🔽
“ถ้านายจะไปฉันก็ไม่ว่าอะไร” ยุนกิเอ่ยบอกจีมินที่กำลังสวมเสื้อยืดสีขาวลายการ์ตูน เจ้าตัวชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะเดินมาหาเมทของเขา โอเมก้าตัวขาวเอียงตัวเล็กน้อยเมื่อจีมินกดจูบลงกับแก้มนิ่มอวบอิ่ม อ้อมแขนแกร่งโอบไหล่บางไว้อย่างรักใคร่
“ไม่พูดเรื่องนี้กันแล้ว ผมบอกว่าจะอยู่กับยุนกิไงครับ” จีมินเอ่ยเสียงออดอ้อนพลางทิ้งหัวถุยลงกับบ่าที่กว้างกว่าตัวเขาของอีกคน
“ก็เห็นนายลำบาก”
“แล้วพี่ไม่ลำบากหรอ” จีมินสวนกลับมาในทันที
“มินกิเกิดจากผมกับพี่ เขาเป็นความรับผิดชอบของเราสองคน” จีมินเว้นวรรคไปช่วงหนึ่งก่อนจะเอ่ยต่อ
“เขาเกิดมาเพื่อเป็นของขวัญให้ผมและพี่ ต่อให้ต้องลำบากกว่านี้เพื่อให้มินกิเติบโตมาอย่างดีผมก็ไม่กลัวหรอก” จีมินเงยหน้าขึ้นมามองยุนกิก่อนจะเสมองไปยังเตียงนอนขนาดเล็กของลูกชายที่อยู่ข้างเตียง ใบหน้าที่ถอดแบบมาจากจีมินได้เป๊ะเสียงยิ่งกว่าแม่พิมพ์กำลังหลับใหลอย่างสงบ
“นายยังเด็กมีโอกาสได้เจอก-...”
“ผมเป็นอัลฟ่าที่มีความรับผิดชอบนะครับ ผมเคยบอกพี่ไปแล้วว่าผมจะมีเมียเดียว และผมรักษาคำพูดของตัวเองเสมอ” ยุนกิพูดไม่ทันจบจีมินก็พูดแทรกขึ้นมาสะก่อน
เป็นเรื่องจริงที่จีมินรักษาคำพูด เจ้าตัวบอกจะหางานก็หาได้จริงๆ บอกจะจ่ายค่าต่างๆในบ้านก็หาเงินมาจ่ายได้จริงๆจากน้ำพักน้ำแรงของเขาเอง ยุนกิเคยห้ามแล้วแต่จีมินก็ยังทำอยู่ดี เพราะไม่ได้ต่อมหาลัยเลยหางานยากแต่โชคดีที่จีมินเป็นลูกคนของตระกูลพัคหลายบริษัทเลยยินดีรับ บวกกับพรสวรรค์ด้านแฟชั่นและการร้องเพลง ตอนเช้าจีมินเข้าไปทำงานที่ออฟฟิศออกแบบเสื้อผ้าแต่ส่วนมากเจ้าตัวจะหอบงานมาทำที่บ้านเพื่อจะได้เลี้ยงลูกได้ อีกอย่างก็เพราะอยากอยู่กับยุนกิด้วยนั่นแหละ
พอตอนเย็นก็เข้าไปร้องเพลงที่ผับซึ่งเพิ่งจะเริ่มไปร้องก็ตอนอายุ 20 นี่ล่ะ เพราะกฎหมายเลยทำให้เพิ่งเริ่มทำได้ มีลูกค้ามาติดมากมาย จีมินส่งสายตาเรียกลูกค้าตลอดนั่นแหละแต่เขารู้ว่าลิมิตตัวเองได้แค่ไหนเพราะฉะนั้นยุนกิถึงไม่ได้กลัวการถูกนอกใจ ที่จริงยุนกิก็ไม่ได้สนอยู่แล้ว เพราะทุกวันนี้ที่อยู่กับจีมินก็ไม่ใช่เพราะรักอะไร แต่เพราะลูกและรอยกัดที่หลังคอต่างหาก ยุนกิปกติทำงานที่บ้าน แต่ช่วงนี้อาร์เอ็มกำลังจะออกอัลบั้มใหม่เลยต้องเข้าไปที่ห้องอัดเพื่อช่วยโปรดิวซ์เพลง เลยต้องปล่อยให้จีมินดูลูกบ่อยๆในช่วงนี้
รู้สึกสงสารจีมินอยู่เหมือนกันที่ต้องมามีลูกตอนอายุยังน้อย เห็นใบหน้าเหนื่อยล้าที่แอบซ่อนไว้ของอีกคนที่พยายามยิ้มแย้มเวลาเขามองก็เป็นห่วงเหมือนกัน แต่เพราะความไม่รับผิดชอบของเราทั้งคู่ก็เลยโทษใครฝ่ายเดียวไม่ได้
“แล้วแต่นายแล้วกัน”
“ยุนกิ” จีมินเรียกชื่อเขาเฉยๆแบบนี้ต้องมีอะไรแน่ๆ
“อืม”
“รักผมบ้างไหมครับ” ยุนกิขมวดคิ้วแน่นทันที
“ถามทำไม”
“ผมรู้ว่ายุนกิไม่ได้รักผมตั้งแต่แรก แต่อยู่ด้วยกันมาปีกว่าๆแล้ว ยุนกิมีความรู้สึกรักผมขึ้นมาสักนิดบ้างไหมครับ” จีมินมองหน้ายุนกิด้วยสายตาจริงจัง
ปกติมักเป็นโอเมก้าที่เรียกร้องความรักจากอัลฟ่า ยุนกิยังไม่เคยเห็นอัลฟ่าเรียกร้องความรักจากโอเมก้ามาก่อนเลยในชีวิตของเขา
“ฉัน...”
“ช่างมันเถอะครับ ผมวุ่นวายไปเอง” จีมินยิ้มก่อนจะกดจูบลงกับแก้มนิ่มแล้วคลานขึ้นไปบนเตียงเพื่อเข้าที่นอนตัวเอง
ยุนกินิ่งไปพักหนึ่งก่อนจะลุกขึ้นเดินอ้อมไปอีกฝั่ง กดปิดไฟเหลือไว้เพียงโคมไฟหัวเตียงก่อนจะทิ้งตัวลงนอนบ้าง เขาหันหลังให้จีมินที่หลับตาไปแล้วแต่ไม่รู้ว่าเจ้าตัวหลับไปจริงๆหรือเปล่า
“จีมิน”
“ครับ” ยุนกิหันหน้ากลับไปหาจีมินที่ตอนนี้ลืมตาขึ้นมาสบกับเขา นัยน์ตาสีแดงอ่อนสะท้อนแสงไฟทำให้ยุนกิเม้มปากเล็กน้อยก่อนจะขยับเข้าไปใกล้จีมิน กดจูบลงกับริมฝีปากหนาก่อนจะโดนอีกคนคว้าเอวให้ขยับเข้าไปใกล้ๆ กลายเป็นว่าจีมินเป็นผู้ควบคุมจูบในครั้งนี้ไปจนได้
“คำตอบหรอครับ”
“อื้อ” จีมินยิ้มก่อนจะกดจูบย้ำที่ริมฝีปากบางของอีกคนเบาๆสองครั้งแล้วดันหัวอีกคนให้มาซุกอกแกร่งของตัวเอง
“แค่นี้ก็ดีมากแล้วครับ”
🔼🔽🔼🔽🔼FIN🔽🔼🔽🔼🔽
Give feedback here(ระบายความรู้สึก) ➡️
▶️แบบส่วนตัว DM ทวิตเตอร์ @incorrectminga
▶️แบบมันต้องสกรีมเข้าแท็ก #FOR2MINSF ตอนคุณพ่อฝึกหัด
▶️หรือแสดงความคิดเห็นด้านล่างนี้ได้เลย⬇️
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น