#ผัวคิตตี้ pt.1






Story: Kitty Husband 😼💕
Rate: PG-13
By: FOR2MIN🌸
Ship: MinGa/JimSu (Jimin x Yoongi)






#ผัวคิตตี้




       

           “ไปเอาของพนันมา” ผู้ชายรูปร่างสมส่วนเอ่ยบอกในขณะที่ก้าวขาลงจากรถมอเตอร์ไซค์สีดำตัดสีชมพูลายคิตตี้ เสื้อหนังสีดำที่มีลายคล้ายปีกนกสีชมพูเข้มถูกตัดเย็บติดด้วยกากเพชรวิววับสะท้อนแสงจนทำให้คนมองต้องหรี่ตาลงเล็กน้อย


           “ไปเอามา” เสียงทุ้มของอีกฝั่งที่ก้าวขาลงจากรถเอ่ยบอกเมื่อเจ้าตัวเป็นฝ่ายพ่ายแพ้อย่างราบคาบ


           “อ่อยอะโอ้ย (ปล่อยนะโว้ย)” ผู้ชายรูปร่างบางถูกลากตัวออกมาโดยผู้ชายหน้าโหดสองคน เจ้าตัวยังคงแหกปากโวยวายตะโกนถึงแม้จะมีผ้าปิดปากไว้ก็ตาม นัยน์ตาแข็งกร้าวจับจ้องไปยังทุกคนที่ยืนอยู่บริเวณนี้อย่างโกรธเคือง


           “มึงหุบปากสักทีได้ม้ะไอตี๋” ชายหนุ่มฝั่งที่แพ้เอ่ยขึ้นก่อนจะเดินเข้าไปหาลูกน้องอีกคนแล้วดึงซองสีน้ำตาลขนาดใหญ่ออกมายื่นให้อีกฝ่ายที่ชนะ


           “เงิน ส่วนนั่นของกำนัล” ชายหนุ่มพยักเพยิดหน้าไปทางชายหนุ่มที่ถูกปิดปากไว้พร้อมกับมือที่ถูกมัดไว้ติดกันและขาที่ถูกโซ่ล่ามไว้ให้พอเดินได้


           “ไอ้เอี้ยอ่อยอูอะโอ้ย โอ้ย(ไอเหี้ยปล่อยกูนะโว้ย โอ้ย)” ชายหนุ่มร่างเล็กหน้าสะบัดไปตามแรงตบจากมือของหนึ่งในชายหนุ่มที่ลากเขาออกมา ความชาแล่นริ้วไปทั่วใบหน้าจนทำให้พูดไม่ออก


           “มึงอย่าทำมันแรง” เสียงลูกพี่เอ่ยสั่งก่อนที่หนึ่งในนั้นจะลากคนร่างบางไปให้อีกฝั่งอย่างไม่เบามือจนคนโดนลากลงไปนั่งกองกับพื้น


           “ไว้คราวหน้ามาแก้มือใหม่ ส่วนมึง ไอตี๋ ถ้ามึงทำตัวไม่ดีมึงรู้ใช่ไหมว่าน้องมึงจะเป็นยังไง” ชายหนุ่มฝั่งพ่ายแพ้เอ่ยตอกย้ำสถานะของคนที่นั่งกองอยู่กับพื้น


           “รู้ใช่ไหมกูไม่ได้พูดเล่น แล้วก็....ถ้ามันดื้อมึงจะจัดการยังไงก็ได้ เพราะน้องมันก็ไม่ได้สนอะไรมันอยู่แล้ว มึงชอบแบบนี้นี่ ถือว่าเป็นของขวัญวันเกิดที่ผ่านมาจากกูแล้วกัน” ทิ้งท้ายไว้แค่นั้นก่อนจะก้าวขาขึ้นรถพร้อมกับขี่ออกไป ลูกน้องรีบก้าวขาขึ้นรถแล้วขี่ตามลูกพี่ออกไปทันที


           “หึ” ชายหนุ่มหัวเราะในลำคอก่อนจะหันมาสนใจคนที่ไม่สามารถลุกจากพื้นได้


           “เอาไงพี่ป้าค” เสียงหนึ่งในลูกน้องเอ่ยถามขึ้น จีมินเลิกคิ้วก่อนจะโยนซองเงินในมือให้ลูกน้องรับไว้ เจ้าตัวดึงคนที่นั่งกองอยู่กับพื้นให้ลุกขึ้นยืนก่อนจะโดนสะบัดออกเมื่ออีกคนตั้งตัวได้


           “อวดเก่ง” ชายหนุ่มร่างบางหันหลังเตรียมตัวจะวิ่งหนีก่อนจะหยุดชะงักเมื่อปืนหลายกระบอกถูกจ่อมาที่เขาอย่างรวดเร็ว


           “อ่ะ” สะดุ้งเฮือกเมื่อรู้สึกได้ถึงความเย็นของเหล็กที่ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นปลายกระบอกปืนแน่นอน


           “อย่าดื้อให้มาก ทำตัวให้สมกับเป็นของขวัญหน่อย” เสียงเข้มเอ่ยบอกมาจากทางด้านหลัง


           “ถ้าไม่งั้นก็ตายสะ แต่กูไม่ได้ฆ่าแค่มึงหรอกนะกูจะบอกให้ไอซองอุนมันฆ่าน้องมึงด้วย” ชายหนุ่มที่โดนปืนจ่อสงบนิ่งแล้วหันหน้ากลับมาหาคนที่จ่อปืนใส่เขาจนตอนนี้ปลายกระบอกปืนมันมาจ่ออยู่ที่ลำคอด้านหน้าของเขาแทน


           “แอะอัดไอ้อ่อย (แกะมัดให้หน่อย)”


           “อย่าตุกติก” พูดจบก็เก็บปืนลงกับกระเป๋าด้านในเสื้อหนังแล้วแกะผ้าที่ปิดปากอีกคนออก


           “มือล่ะ” พอปากเป็นอิสระก็ร้องขออีกอย่างทันที


           “กูขี้ข้ามึงหรือไง” จีมินเลิกคิ้ว


           “ก็กูแกะเองไม่ได้”


           “ชื่ออะไร”


           “แกะมัดให้กูก่อน”


           “อย่ามาต่อรอง”


           “มินยุนกิ”


           “ถ้ากูแกะแล้วมึงตุกติก กูไม่รับประกันชีวิตมึงหรอกนะ” พูดจบจีมินก็แกะมัดที่มือให้อีกคน พอมือเป็นอิสระยุนกิก็สะบัดไปมา ถกเสื้อแขนยาวขึ้นเล็กน้อยก็พบว่าข้อมือของตัวเองแดงเถือกตัดกับสีผิวขาวใสจนน่ากลัว


           “แล้วเท้ากูล่ะ” ยุนกิก้มมองโซ่ที่เท้าตัวเอง


           “ก็ถ้ามึงไม่กลัวปืนลั่นใส่ตีนเดี๋ยวกูจะเอาออกให้” จีมินทำท่าจะหยิบปืนออกมาเล่นเอายุนกิต้องรีบร้องห้ามทันที


           “ไม่ต้องๆ เดี๋ยวค่อยก็ได้” ยุนกิรีบห้ามปรามอีกคนทันที


           “เดี๋ยวพวกมึงกลับกลับไปที่สำนักงาน ดูความเรียบร้อยแล้วรายงานกูด้วย เดี๋ยวกูเข้าบ้านเลย”


           “ครับพี่ป้าค” เหล่าลูกน้องตอบรับก่อนจะขึ้นรถแล้วขี่ออกไป


           “ขึ้นรถ” จีมินเอ่ยบอกพร้อมกับก้าวขาขึ้นคร่อมรถมอเตอร์ไซค์ของตัวเอง


           “แล้วกูจะขึ้นยังไง” ยุนกิใช้มือชี้ไปที่เท้าตัวเองที่มีโซ่คล้องอยู่ จะให้ก้าวขาคร่อมรถยังไงล่ะ


           “นั่งหันข้างดิ”


           “กูเป็นผู้ชาย”


           “แล้ว?”


           “เหี้ย” ยุนกิสบถออกมาก่อนจะค่อยๆเดินไปที่รถมอเตอร์ไซค์ลายคิตตี้ของอีกคนแล้วพาตัวเองขึ้นไปนั่งท่าหันข้าง มือไม้ปัดป่ายหาที่เกาะแต่ก็ดูเหมือนมันจะลำบากไปสะหมด ก็เคยซ้อนมอเตอร์ไซค์มาบ้างแต่ไม่ใช่ท่านี้ไง


           “เกาะเอวกูนี่ถ้าไม่อยากวัดพื้นถนน” จีมินเอ่ยบอกก่อนจะเอาหมวกกันน็อคที่วางอยู่บนหน้าปัดรถขึ้นมาใส่อีกครั้ง


           “ยังอีก” จีมินเปิดหมวกกันน็อคมาดุอีกคนที่ยังดื้อไม่หาย


           “เออ รู้แล้ว” ยุนกิค่อยๆเอื้อมมือไปเกาะอย่างเก้ๆกังๆจนจีมินต้องใช้มือตัวเองจัดท่าให้อีกคน


           “เกาะแน่นๆถ้ายังอยากเจอน้องมึง” พูดจบจีมินก็ออกรถ ยุนกิกอดเอวอีกคนแน่น ซบหน้าลงกับหลังอีกคนเมื่อรถพุ่งไปด้วยความเร็วสูง หลับตาไม่มองใดๆทั้งสิ้นเพราะกลัวเกินกว่าจะมองมัน ลมหนาวที่ตีผ่านผิวหนังใต้เนื้อผ้ายิ่งทำให้ขนลุกจนต้องกอดอีกคนให้แน่นขึ้นไปอีก


           นั่งไปได้ประมาณสิบกว่านาทีรถก็ชะลอความเร็วลงทำให้ยุนกิลืมตาขึ้นมาช้าๆก็พบว่าอีกคนเลี้ยวรถเข้าปั้มน้ำมันก่อนจะจอดลงที่หน้าร้านสะดวกซื้อหมายเลข 7-11 ยุนกิคลายมือออกจากเอวอีกคนแล้วจับผมตัวเองที่ยุ่งเหยิงไม่เป็นทรง


           “รออยู่นี่ อย่าคิดหนี เพราะคงลำบากและถ้ากูตามเจอมึงจะไม่ตายดี” จีมินเอ่ยสั่งอีกคนก่อนจะลงจากรถแล้วเดินเข้าไปในร้านสะดวกซื้อ มีผู้คนไม่มากนักเพราะมันค่อนข้างดึกมากแล้ว


           จีมินเดินหายเข้าไปในร้านแล้ว ยุนกิถอนหายใจก่อนจะเม้มปากอย่างครุ่นคิด ถามว่าอยากหนีไหมก็อยากแต่ก็กลัวตายเหมือนกันนั่นแหละ ที่กล้าๆก่อนหน้านี้คือแสดงทั้งนั้นแหละ ไหนจะชีวิตน้องชายของเขาอีก สุดท้ายก็เลยทำได้แค่นั่งถอนหายใจอยู่บนรถแบบนี้


           “เห้ยมึง”


           “มึงอ่ะ”


           “มินยุนกิหูมึงตึงหรอ” ยุนกิหันไปมองอีกคนที่โผล่หน้ามาจากประตูเซเว่นทันที


           “มึงก็เรียกชื่อกูดิ มึงตะโกนเรียก มึงๆๆๆ กูจะรู้หรอว่ามึงเรียกใคร”


           “เยอะอีก” ยุนกิส่งสายตาดุใส่อีกคนที่ยิ้มอย่างหยอกล้อ


           “มึงชอบแบบไหน มีกลิ่นหรือไม่มีกลิ่น” จีมินชูมือที่มีกล่องขนาดพอมืออยู่ทั้งสองข้างขึ้น พอยุนกิรู้ว่ามันเป็นอะไรก็เม้มปากทันที


           “ไอเหี้ย” แหกปากด่าอีกคนจนเด็กปั้มหันมามองอย่างตกใจ


           “เอ้า นี่กูถามมึงก่อนเลยนะ เดี๋ยวพอกูใช้แล้วไม่ถูกใจมึงจะทำไงอ่ะ” จีมินยักคิ้ว ยุนกิเม้มปากหลับตาด้วยความอายเมื่อเห็นพนักงานในเซเว่นมองมาที่เขาอย่างยิ้มๆ ไหนจะเด็กปั้มที่มองมาอีก


           “ไอสัส” ยุนกิเอ่ยด่าอีกรอบ


           “แล้วมึงอ่ะไซส์อะไร กูไม่อยากให้มึงปล่อยเลอะเตียงกูอ่ะ แต่กูว่าอย่างมึงไซส์เล็กสุดแหละเนอะ”


           “ไอเหี้ย” ยุนกิยกมือขึ้นอยากกะจะฟาดอีกคนสักทีแต่ติดตรงที่อยู่ไกลกันนี่ล่ะ


           “แล้วเอายังไง แบบมีกลิ่นหรือไม่มี” ยุนกิพยายามข่มอารมณ์โกรธไว้อย่างใจเย็นที่สุด


           “จะเอาอะไรก็เอามาเถอะไอเหี้ย!” ยุนกิตัดบทเพราะยิ่งต่อปากต่อคำเขาก็จะยิ่งอายไปมากว่านี้ เพราะเขาไม่ใช่อีกคนที่แสดงความหน้าด้านออกมาสะชัดเจนขนาดนี้


           “เคครับ” จีมินฉีกยิ้มกว้างก่อนจะหายกลับเข้าไปในเซเว่นน สักพักก็เดินออกมาพร้อมกับถุงขาวลาย 7-11 ขนาดใหญ่ เขาแขวนมันกับที่แฮนด์รถแล้วจึงก้าวขาคร่อมขึ้นมาบนรถอีกครั้ง


           “กวนตีน” ยุนกิสบถใส่อีกคน


           “ถือว่าชมแล้วกัน” จีมินเอ่ยตอบกลับมาโดยไม่ได้หันกลับมามองอีกคนเลยสักนิด


           “หน้าด้าน”


           “อย่าว่าผัวดิ”


           “ผัวพ่อมึงดิ”


           “เดี๋ยวก็ใช่” ยุนกิเงียบไปพร้อมกับที่จีมินใส่หมวกกันน็อคอีกครั้ง หลับตาลงอย่างปลงๆเมื่อรู้ชะตากรรมของตัวเอง ก็ใช่ว่าไม่เคยสะเมื่อไหร่ ถ้าให้นับนี่ก็ครั้งที่สองแล้วที่เขาต้องมาทำอะไรแบบนี้เพราะน้องชายตัวแสบที่อยากเข้ามาอยู่ในวงการนักบิดสะเหลือเกิน ถามว่ายุนกิทำอะไรได้ไหม ก็ไม่ จะให้ทำไงได้ก็เหลือกันอยู่สองคน ต้องยอมรับว่าเงินมันดีกว่างานเด็กเสริฟ์ในบาร์ที่ยุนกิทำอยู่ แต่มันก็เดือดร้อนเวลาที่แพ้นี่แหละ ยุนกิไม่อยากนึกถึงมันเท่าไหร่ ถึงจะรอดมาได้อย่างหวุดหวิดในตอนนั้นเพราะเมียของฝั่งนั้นมาตามสะก่อน แต่คราวนี้ดูจะยากแต่ก็ขอหวังไว้หน่อยแล้วกัน


           รถมอเตอร์ไซค์เคลื่อนตัวออกไปอีกครั้ง ครั้งนี้ยุนกิใช้เพียงแขนเดียวกอดเอวเล็กของอีกคนไว้ ส่วนอีกมือก็เกาะขอบเข็มขัดที่โผล่ออกมาพ้นเสื้อของอีกคนไว้ ใบหน้าแนบลงกับหลังของอีกคนผ่านเสื้อหนัง เครื่องประดับกากเพชรที่ถูกเย็บติดกับเสื้อหนังของอีกคนถูไถไปมากับหน้าของเขาแต่ยุนกิก็ไม่ได้สนใจมัน สายตาไล่มองไปตามวิวข้างทางที่ไม่ได้ผ่านไปเร็วเหมือนก่อนหน้านี้ ลมเย็นๆที่พัดผ่านผิวทำให้ขนลุกแต่ก็ถูกทดแทนด้วยความอุ่นจากเสื้อของอีกคน

           มอเตอร์ไซค์หยุดลงแล้ว จีมินเลิกคิ้วเมื่อรู้สึกได้ถึงความหนักที่ถูกเทลงมาบนแผ่นหลัง เขาขยับตัวเล็กน้อยแต่ความหนักอึ้งก็ยังไม่หายไป จีมินถอดหมวกกันน็อคออกก่อนจะโยนลงไปบนโซฟาสีดำในโรงรถที่เขาเข้ามาจอด


           “หลับลงได้ไงว่ะ” จีมินส่ายหัวก่อนจะกระตุกแขนตัวเองจนอีกคนสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจ


           “ขี้เซาเนอะมึงเนี้ย” จีมินเอ่ยบอกพร้อมกับที่ยุนกิยืดตัวขึ้นนั่งหลังตรง


           “ถึงแล้ว ลงดิ้” จีมินยักไหล่เป็นเชิงบอก ยุนกิสูดลมหายใจเบาๆก่อนจะค่อยๆก้าวขาลงจากรถด้วยความระมัดระวังเพราะโซ่ที่ขามันทำให้เขาทำอะไรลำบากมากๆ จีมินก้าวลงจากรถหลังจากยุนกิลงแล้ว เขาถอดถุงมือแล้วโยนไปที่โซฟาตัวเดิมก่อนจะคว้าถุงเซเว่นจากแฮนด์รถแล้วหันกลับมามองยุนกิที่ยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม


           “ป่ะ เข้าบ้าน” จีมินเอ่ยบอกแล้วทำท่าจะเดินนำออกไปก่อนจะหยุดลงเมื่อได้ยินเสียงโซ่ที่เท้ายุนกิลากไปกับพื้น


           “เออกูลืม” จีมินเลิกคิ้วก่อนจะหันกลับมา เขาวางถุงเซเว่นพิงไว้กับกระถางต้นไม้แล้วเดินเข้าไปใกล้ยุนกิที่ไม่ได้ขยับหนีไปไหน ดันเอวอีกคนให้เดินไปใกล้โต๊ะที่มีเครื่องมืออยู่เต็มไปหมด เลื่อนมือขึ้นกวาดเครื่องมือที่วางเกะกะไปอีกทางแล้วดึงยุนกิให้เข้ามาใกล้ ไม่ทันได้ตั้งตัวเอวบางก็ถูกมือทั้งสองข้างของจีมินจับไว้แน่นก่อนที่ตัวยุนกิจะลอยขึ้นจากพื้นแล้วถูกวางแหมะให้นั่งลงบนโต๊ะตัวเดิม


           “เหี้ย” อุทานออกมาด้วยความตกใจ


           “มึงนี่หยาบเก่งจังว่ะ” จีมินเลิกคิ้วมองอีกคนที่ทำหน้าบึ้งอย่างคนตกใจปนไม่ชอบใจ


           “แล้วมึงจะทำไม” ยุนกิก็ยังคงปากดีไม่หยุด


           “เดี๋ยวกูทำให้พูดไม่ออกเลยคอยดู” จีมินยักคิ้วให้ยุนกิ ยุนกิทำท่าจะลงจากโต๊ะแต่จีมินก็ห้ามไว้ก่อนด้วยปืนที่ถูกจ่อมาที่หน้าอกบอบบาง ยุนกิชะงักกึกในทันที


           “อย่าดื้อได้ม้ะ กูกำลังจะเอาโซ่ออกให้นี่ไง” ปลายกระบอกปืนลดระดับลงไปตามแนวหน้าท้องของยุนกิก่อนที่มันจะไปหยุดอยู่ที่เป้ากางเกงของยุนกิ


           “โซ่ไม่ได้อยู่ตรงนี้ไหม” ยุนกิบ่นพึมพำหันหน้าหนีไปทางอื่น จีมินหัวเราะในลำคอเบาๆก่อนจะโยนปืนไปทางโซฟา ยุนกิตาโตด้วยความตกใจเพราะกลัวปืนจะลั่นเพราะการที่จีมินโยนปืนไปแบบนั้นถึงจะกดเซฟตี้ไว้แล้วก็เสี่ยงอยู่ดี มือขาวฟาดลงที่อกแกร่งของอีกคนอย่างไม่เบาแรงนัก


           “โอ้ย ตีเพื่อ?” จีมินจับข้อมือขาวของอีกคนไว้


           “สัส ถ้ามันลั่นมึงจะทำไง” ยุนกิแหกปากใส่อีกคน


           “ลั่นแล้วไง มันไม่มีลูก” จีมินยกยิ้มมุมปาก


           “นี่มึง” ยุนกิอ้าปากพะงาบๆ นี่แสดงว่าที่ผ่านมายุนกิก็กลัวไปเองน่ะสิ


           “หุบปากเถอะน่า ถ้ามึงยังพูดมากกูจะเอาของจริงมาให้ชิม” จีมินเอ่ยขู่ด้วยใบหน้าจริงจัง


           “สัส”


           “นั่งเฉยๆเดี๋ยวกูเอาโซ่ออกให้” จีมินปล่อยมือขาวออกก่อนจะขยับเข้าใกล้ยุนกิจนต้องยกมือขึ้นมาดันหน้าอกอีกคนไว้ จีมินยิ้มพร้อมกับคว้ากุญแจเหล็กที่ถูกแขวนอยู่ด้านหลังของยุนกิออกมา เขาถอยออกห่างยุนกิพร้อมกับแกว่งกุญแจในมือไปมา


           “ถ้ามึงคิดหนีล่ะก็ กูขอเตือนไว้ว่าลูกน้องในบ้านกูไม่ปล่อยมึงออกไปแบบมีชีวิตหรอกนะ” พูดจบก็ก้มลงไปที่ข้อเท้ายุนกิ ใช้กุญแจดอกแรกลองไขโซ่แต่ก็ไม่ออก ลองไปลองมาก็มาจบที่ดอกที่ห้า เสียงดังของกลไกทำให้รู้ว่ากุญแจหลุดออกแล้ว จีมินดึงโซ่ออกจากขาอีกคนในขณะที่ยุนกิยกเท้าขึ้นมาเพื่อลูบข้อเท้าของตัวเองเบาๆ


           “ป่ะ เข้าบ้าน” พูดจบจีมินก็เดินนำไปก่อนโดยไม่ลืมที่จะคว้าถุงเซเว่นที่วางไว้ไปด้วยในขณะที่ยุนกิก็ถอนหายใจแล้วยอมเดินตามอีกคนไป พอออกมาจากโรงรถยุนกิก็สังเกตได้ว่าบ้านหลังตรงหน้าใหญ่แค่ไหน ให้ตายเถอะนี่มันปราสาทหรือเปล่า ชายชุดดำยืนอยู่ประจำจุดทุกทางและบันไดกว่าสิบขั้นตรงประตูทางเข้าบ้าน




           ‘JIMIN PARK’




           ป้ายสลักสีทองขนาดพอดีถูกสลักไว้บนขอบประตูบ้าน ถ้าให้เดาคงเป็นชื่อของคนตรงหน้าแน่ๆ ชื่อ “พัคจีมิน” สินะ


           “คุณจีมิน” ชายชุดดำออกมารับของจากมือจีมิน ยุนกิมองตามไม่ละสายตาก่อนจะพบว่าจีมินเดินนำไปไกลแล้วเลยรีบตามไปก่อนจะโดนการ์ดชุดดำตรงประตูกันไว้


           “ปล่อยเข้ามา” เสียงจีมินดังขึ้นทำให้การ์ดถอยออกห่างยุนกิ พอก้าวเข้ามาในบ้านก็อึ้งหนักกว่าเดิม เพราะข้างนอกว่าใหญ่แล้วข้างในนั้นหรูหราและใหญ่โตกว่าที่คิดสะอีก


           “เดินให้เร็วๆ” จมินเอ่ยบอกเสียงดุทำให้ยุนกิต้องจำใจเดินขึ้นบันไดตามจีมินขึ้นไปด้านบน เดินมองอะไรไปเรื่อยจนมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องห้องหนึ่ง จีมินเดินเข้าไปก่อนในขณะที่ยุนกิหายใจเข้าลึกๆอย่างปลงๆก่อนจะเดินเข้าไป แน่นอนว่าด้านในกว้างกว่าห้องเช่าของเขาสามเท่า เตียงนอนขนาดใหญ่และของตกแต่งที่ดูยังไงก็รู้ว่าแพง คนรวยๆแบบนี้จะไปแข่งรถเอาตั้งสองสามแสนเพื่ออะไรในเมื่อก็รวยสะขนาดนี้


           “ไปอาบน้ำไป เอาให้หอมๆล่ะ เวลาดมจะได้ชื่นใจ” จีมินยักคิ้วก่อนจะหันไปทางประตูเมื่อมีเสียงเคาะ


           “เข้ามา” ชายชุดดำคนเดิมที่รับถุงไปจากจีมินเดินเข้ามาพร้อมกับกล่องถุงยางที่จีมินซื้อมาจากเซเว่นในมือ เขาวางมันลงบนโต๊ะข้างเตียงก่อนจะออกไป ยุนกิยืนนิ่งเป็นหินอย่างคนทำอะไรไม่ถูก


           “บอกให้ไปอาบน้ำ” จีมินเริ่มขมวดคิ้วด้วยความขัดใจ


           “มึงจะมาสั่งอะไรกูหนักหนา” ยุนกิหันไปแหกปากใส่จีมินจนอีกคนต้องเดินเข้ามาใกล้ ยุนกิถอยหนีจนสุดท้ายหลังก็ติดเข้ากับกำแพงห้อง


           “แล้วมึงจะเถียงอะไรหนักหนา” จีมินเลิกคิ้ว


           “กู กู” ยุนกิทำท่าจะเถียงต่อแต่ก็ถูกจีมินลากเข้าไปในห้องน้ำสะก่อน


           “แล้วมึงจะเข้ามาด้วยทำไม”


           “กูจะอาบน้ำไง”


           “งั้นมึงอาบไปก่อน”


           “อาบพร้อมกันมันจะเป็นไรไป”


           “หน้าไม่อาย”


           “อีกเดี๋ยวกูก็เห็นของมึงหมดอยู่ดี แล้วมึงก็จะเห็นของกู จะอายอะไรอีก”


           “ไอเหี้ย มึงมัน”


           “เลิกพูดมาก ไปอาบน้ำ ไม่งั้นกูจะอาบให้แทน” จีมินกอดอกมองอีกคน


           “สัส รู้แล้ว กูอาบเองได้” ยุนกิเม้มปากก่อนจะคว้าผ้าขนหนูเดินเข้าไปทางฝั่งฝักบัวที่มีตู้กระจกสีขุ่นครอบไว้ ยุนกิเปิดประตูเข้าไปแล้วปิดทันที จีมินหัวเราะเบาๆก่อนจะถอดชุดออกจนตัวเปลือยเปล่า กดเปิดน้ำลงอ่างก่อนจะเดินลงไปนั่งในนั้น


           “เลือกผิดแล้วโง่เอ้ย” จีมินยกยิ้มมุมปากก่อนจะกดปุ่มที่ข้างอ่าง กระจกที่เคยขุ่นมัวจนมองไม่เห็นด้านในก็ใสขึ้นมาทันที คนด้านนอกน่ะเห็นแต่คนด้านในน่ะไม่รู้ตัวหรอก ภาพที่เขาเห็นคือผิวขาวที่กำลังโผล่พ้นออกมาจากเนื้อผ้าที่อีกคนถอดออก จีมินขมวดคิ้วแน่น


           ก็ไม่คิดว่าอีกคนจะผิวขาวเนียนไปทั่วทั้งตัวขนาดนี้ ทันทีที่ก้นขาวโผล่พ้นจากกางเกงชั้นใน จิตใจจีมินก็เริ่มปั่นป่วน ผู้ชายอะไรทำไมถึงได้ขาวเนียนไปทั้งตัวแบบนี้ แม้กระทั่งส่วนนั้นยังขาวอมพูจนน่าใช้มือลูบไล้ให้พอใจ แต่พอมองไปที่ข้อมือและข้อเท้าที่ขึ้นรอยแดงช้ำแล้วก็ขัดใจนิดหน่อยที่ผิวขาวสวยต้องมามีรอยแบบนั้น แต่ก็นะเพราะความดื้อของเจ้าตัวทั้งนั้นแหละ


           จีมินเดาะลิ้นกับกระพุ้งแก้มเบาๆ สายตาผู้ล่าจดจ้องอย่างไม่วางตา ความกระหายเริ่มเข้าโจมตีจนไม่อยากทนให้อีกคนอาบน้ำอีกแล้ว แต่เขาต้องใจเย็น จะกินของดีก็ต้องรอเวลาให้ของพร้อมก่อนจะค่อยๆละเลียดชิมหรืออาจจะขย้ำให้ตายคามือก็ไม่สายไปหรอก


           จีมินเม้มปากอย่างหักห้ามใจก่อนจะชำระล้างร่างกายตัวเองอย่างใจเย็น ผ่านไปเกือบสิบห้านาทียุนกิก็หยิบผ้าขนหนูที่แขวนไว้ขึ้นมาเตรียมเช็ดตัวจีมินเลยรีบล้างตัวลุกจากอ้างแล้วคว้าผาเช็ดตัวมาเช็ดตัวก่อนจะพันท่อนล่างไว้


           ยุนกิเดินออกมาพร้อมเสื้อผ้าในมือและผ้าขนหนูที่พันท่อนล่างไว้ จีมินเดินเข้าไปใกล้ ยุนกิถอยหลังหนีเล็กน้อยแต่สิ่งที่จีมินทำก็แค่แย่งเสื้อผ้าจากมือยุนกิแล้วโยนมันลงตะกร้าก็เท่านั้น


           “เหี้ย” ยุนกิสะดุ้งจนสุดตัวเมื่อผ้าขนหนูที่พันท่อนล่างอยู่ถูกจีมินกระชากออกก่อนที่มันจะลอยไปทางตะกร้าอันเดิมที่จีมินเคยโยนเสื้อผ้ายุนกิไปก่อนหน้านี้ มือขาวรีบยกขึ้นมาปกปิดส่วนกลางลำตัวไว้ทันที


           “มึงทำเหี้ยไรเนี้ย” ยุนกิบ่นก่อนจะเดินไปหยิบผ้าขนหนูที่ยังเหลืออยู่แต่จีมินกลับดักหน้าไว้ก่อน


           “ไม่ต้องใช้ เสียเวลาถอด” จีมินยกยิ้มก่อนจะดึงผ้าขนหนูของตัวเองออกเช่นกัน


           “อ่ะ เหี้ย” ยุนกิสะดุ้งเฮือกเมื่อถูกจีมินพลิกตัวหันหลังจนหน้าแนบกับกระจกใสที่พอมองเข้าไปแล้วมันค่อนข้างคุ้นๆ


           เดี๋ยวนะ มันคุ้นจน....นี่มันที่ยุนกิเข้าไปอาบน้ำเมื่อกี้ไม่ใช่หรอ ตอนที่มองจากข้างในกระจกมันขุ่นนี่ แต่พอมองจากข้างนอกทำไมมัน...


           ไอคนร้ายกาจ!


           “กระจกนี่มัน อ่ะ” ยุนกิสะดุ้งเฮือกเมื่อรู้สึกได้ถึงบางอย่างแตะเข้าที่ก้นของตัวเอง ไม่รอช้าเตรียมยกมือเพื่อจะฟาดอีกคนแต่กลับกลายเป็นโดนรวบไว้ด้วยแขนจีมินแทน


           “ปล่อยกู”


           “ทำไมมึงดื้อจังว่ะ” จีมินขมวดคิ้วพร้อมกับพยายามรวบตัวยุนกิไว้จนในที่สุดจีมินก็ทนไม่ไหวกัดเข้าที่ซอกคอขาวของยุนกิจนเลือดซิป


           “อ้ากกกก เจ็บ” ยุนกิหอบหายใจถี่อย่างอ่อนแรงก่อนจะโดนจีมินบีบเข้าที่ลำคอขาวพร้อมกับกดหัวยุนกิแนบไปกับกระจกห้องน้ำจนแก้มยู่


           “เจ็บ”


           “ถ้าเจ็บก็เลิกดิ้น” จีมินเอ่ยบอกเสียงเข้ม


           “ถ้ามึงยังดื้อกูจะทำให้มึงหมดลมหายใจไปเลยเป็นไง” เสียงขู่จากจีมินไม่ได้ทำให้ยุนกิกลัวเท่าไหร่เพราะเรื่องปืนไม่มีลูกก่อนหน้านี้


           “กลัวตาย” ยุนกิตอบกลับ


           “เหรอ” จีมินกระซิบเสียงเบา ยุนกิถูกดึงให้หันมาสบตากับจีมินอีกครั้งพร้อมกับเข่าหนาของอีกคนกระแทกมาที่ท้องน้อยยุนกิอย่างจัง


           “อั่ก” ยุนกิจุกจนพูดไม่ออก มือทั้งสองข้างกุมที่ท้องก่อนที่เจ้าตัวจะลงไปนั่งกองกับพื้น


           “เก่งดีนัก” จีมินเสยผมที่ลงมาปรกหน้าออกก่อนจะยกยุนกิขึ้นมาพาดบ่าโดยที่เจ้าไม่ได้ขัดขืนอะไรเพราะคงจุกมาก แน่นอนล่ะจีมินไม่ได้ออมแรงเลยสักนิด


           “อื้อ” ยุนกิร้องออกมาเมื่อจีมินทิ้งเจ้าตัวลงกับเตียงนุ่ม ยุนกิขดตัวกุมท้องไว้อย่างช่วยไม่ได้ ก็มันจุกมากจริงๆ


           “อ่ะ” จีมินพาตัวเองขึ้นไปบนเตียงก่อนจะดึงขายุนกิแล้วลากเข้าหาตัว อีกคนยังคงกุมท้องไว้ ใบหน้าขาวซีดขึ้นเล็กน้อยคงเพราะความจุกนั่นแหละ กล่องถุงยางที่วางอยู่บนโต๊ะข้างเตียงถูกหยิบขึ้นมาก่อนจะเปิดออกอย่างเร่งรีบ จีมินดึงซองถุงยางออกมาหนึ่งซองแล้วใช้ปากคาบไว้ก่อนจะหยิบซองเจลล่อลื่นจากอีกกล่องขึ้นมาแล้วแทนที่ซองถุงยางที่ปาก จีมินฉีกซองล่อลื่นด้วยปากแล้วเทมันลงกับมือตัวเอง


           “เดี๋ยว” ยุนกิหันมาสบตากับจีมินตรงๆ ใบหน้าขาวซีดแสดงออกถึงความวิตกกังวลอย่างชัดเจน


           “อย่าขอร้อง กูไม่ใจอ่อนหรอก” จีมินยิ้มหวานก่อนจะป้ายเจลล่อลื่นที่มือลงไปที่ก้นอีกคน


           “อื้อ” ยุนกิสะดุ้งเฮือก


           “นอนเฉยๆเหอะ” จีมินตัดบทด้วยความรำคาญ


           “อ่ะ เจ็บ มึง กูเจ็บ อื้อ” ทันทีที่นิ้วของอีกคนกดเข้ามาในตัวยุนกิก็กระตุกเบาๆ ใบหน้าขาวซีดสะบัดหนีไปอีกทาง ดวงตาเรียวคมหรี่จนเป็นเส้นตรง เสียงหอบหายใจอย่างแรงเหมือนคนตื่นเกร็ง ก็แน่ล่ะยุนกิกำลังเกร็งอยู่จริงๆ


           ยิ่งนิ้วเพิ่มขึ้นเสียงหอบหายใจของยุนกิก็เริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ เนื้อตัวขาวเนียนสั่นเทาจนน่าสงสาร แต่คงไม่ใช่ในสายตาจีมินหรอก ถ้าคิดจะเป็นเสืออย่าเห็นใจเหยื่อเป็นอันขาด


           จีมินถอนนิ้วออกก่อนจะฉีกซองถุงยางด้วยปากอีกครั้ง เขาสวมมันอย่างรวดเร็วด้วยความคุ้นชิน


           “อ่า!!!!!” ยุนกิแหกปากร้องเสียงดังเมื่ออีกคนดุ้นดันตัวตนเข้ามาในตัวของเขา


           “มึงอย่าเกร็งดิวะ” จีมินดึงแขนยุนกิทั้งสองข้างแล้วดึงเข้าหาตัวเพื่อให้ส่วนที่เชื่อมกันเข้าไปได้ลึกขึ้น ให้ตาย มันเพิ่งจะเข้าไปได้แค่ส่วนหัวเท่านั้นเอง


           “กูเจ็บ!!” ยุนกิแหกปากใส่อีกคน


           “ผ่อนลมหายใจดิ้” จีมินเอ่ยบอกอีกคนอย่างอดทน


           “สัส มึงมาลองโดนเองไหม” ยุนกิแหกปากใส่อีกคนไม่หยุด


           “อ่า!!!!!” ยุนกิแหกปากเสียงดังเมื่อจีมินกระแทกเข้ามาสุดแรงจนรู้สึกจุกที่ท้องน้อยยิ่งกว่าเดิม ปากเรียวบางพะงาบๆไร้เสียง ความเจ็บจุกที่ตีขึ้นมาทำให้ยุนกิทำเสียงหายไปกับอากาศ


           “บอกให้ผ่อนลมหายใจไง มึงจะหักของกูรึไง” จีมินบ่นอย่างหัวเสียเมื่อรู้สึกได้ถึงความคับแน่นภายในตัวของอีกคน มันแน่นจนเหมือนจะหักตัวตนของจีมินเป็นสองท่อน


           “มึง...ฮะ...จะผ่อนยังไงมึงบอกกูมาดิ้...ฮะ สัส” ยุนกิหอบหายใจถี่


           “แม่ง”


           จีมินก้มลงจูบคนด้านล่าง ปากหนาบดขยี้ลงกับปากเรียวบางจนอีกคนต้องเผยอปากออก ลิ้นร้อนเข้าไปทักทายปากอุ่นอย่างช่ำชอง ยุนกิไม่ได้จูบตอบเพียงแต่ปล่อยให้อีกคนทำตามใจชอบ เพราะเขาไม่รู้จะเอาแรงที่ไหนไปสู้อีกคนแล้ว


           “อ่ะ” ยุนกิครางออกมาเมื่อจีมินถอนจูบออกพร้อมกับขยับเอวช้าๆเมื่อรู้สึกได้ว่ายุนกิผ่อนคลายลงแล้ว


           “พัคจีมิน” จีมินกระซิบเบาๆข้างหูยุนกิ


           “อื้อ อะไร” ยุนกิเอ่ยตอบอย่างไม่มีสตินักเมื่อเจ้าตัวเริ่มจะเคลิ้มไปกับจีมิน


           “ชื่อผัวมึง”


           “ฮา อะ สัส” ยุนกิขมวดคิ้วแน่นพร้อมกับพยายามปรือตามองหน้าคนที่อยู่ด้านบน ภาพสั่นคลอนไปมาตามแรงกระแทกจากเอวอีกคน เสียงเนื้อกระทบกันดังก้องอยู่ในหู ภาพใบหน้าชื้นเหงื่อของจีมินสั่นไปมาสลับกับแสงไฟที่เพดานจนน่ามึนหัว


           “ไม่ครางชื่อผัวหน่อยหรอ” จีมินยิ้มพร้อมกับขยับหน้าเข้ามาใกล้หน้ายุนกิ มือข้างหนึ่งควบคุมเอวยุนกิไว้กับที่ส่วนอีกมือก็ยกขึ้นมาปัดผมที่ลงมาปรกหน้ายุนกิออก ยุนกิหลับตาเมื่อมือจีมินปัดผ่านใบหน้าของเจ้าตัวไป


           “หืมมมม ชอบไหม” จีมินครางกระเซ้าที่ข้างหูยุนกิพร้อมคำถามล่อแหลมที่ยังน้อยกว่าการกระทำของคนทั้งคู่ในตอนนี้


           “ชอบ อ่ะ ที่ ตีน สัส” ยุนกิเอ่ยตอบ


           “คนแรกเลยนะมึงอ่ะ


           “แรก...เหี้ย อะไร”


           “ที่ให้กูเอาไปด่าไปแบบนี้” จีมินหัวเราะเบาๆพร้อมกับจังหวะเอวที่ช้าลงจนเป็นจังหวะเนิบนาบ


           “สัส” ยุนกิเอ่ยด่าอีกรอบ


           “แต่งครับ” จีมินตอบกลับ ยุนกิขมวดคิ้วด้วยความไม่เข้าใจ


           “อะไร ไม่เคยได้ยินอ่อ มุขยอดฮิตเลยนะเว้ย มึงไปอยู่ป่ามาหรือไง” จีมินพูดพร้อมกับหัวเราะเบาๆ


           “แต่ง อ่ะ แฮก อ่า พ่อง” ยุนกิ


           “ไม่แต่งกับพ่อมึงหรอก แต่งกับมึงนี่แหละ” จีมินยังคงแหย่ไม่หยุด ยุนกิทำท่าจะด่ากลับแต่ก็กลายเป็นเสียงครางแทนเมื่อจีมินเริ่มขยับเอวเร็วขึ้นอีกครั้ง


           “อ่ะ” ยุนกิกระตุกพร้อมกับความรู้สึกโล่งเมื่อจีมินถอนตัวออกไป ยุนกิได้ยินเสียงจีมินขยับยุกยิกแต่เขาไม่รู้ว่าจีมินทำอะไรเพราะไม่มีแรงมากพอจะเงยหน้าขึ้นไปดูด้วยซ้ำ ตัวมันชาไปหมดแล้ว


           “อึก” ยุนกิกระตุกอีกครั้งเมื่อจีมินใส่เข้ามาอีกรอบ คิ้วยุนกิกระตุกเพราะรู้สึกแปลกๆ จีมินสอดใส่เข้ามาอีกครั้ง มือขาวเลื่อนลงไปยังส่วนที่เชื่อมกันอยู่ จีมินเลิกคิ้วเมื่ออีกคนเลื่อนมือมาตรงส่วนที่เชื่อมกัน เขาเม้มปากอย่างลุ้นๆพร้อมกับถอนกายออกมาเล็กน้อย ยุนกิคลำส่วนกลางลำตัวของจีมินก่อนจะปล่อยมือออกไปเมื่อสัมผัสหาถุงยางเจอ


           “อ่า” จีมินกระแทกกระทั้นเข้าหาอีกคนอีกครั้งพร้อมกับดึงแขนทั้งสองข้างของยุนกิไว้เพื่อควบคุมแรงสอดใส่และหาที่ยึดเหนี่ยว รอยยิ้มเจ้าเล่ห์เผยขึ้นบนใบหน้าหล่อเหลาเมื่อสิ่งที่เขากำลังทำผ่านไปได้ด้วยดี


           จีมินใส่แรงมากขึ้นเมื่อเขาใกล้ถึงฝั่งฝัน จีมินปล่อยมือออกจากมือยุนกิ ข้างหนึ่งค้ำลงบนเตียงส่วนอีกมือก็รูดรั้งส่วนกลางลำตัวให้ยุนกิ ขาขาวเกี่ยวเอวจีมินเมื่อรู้สึกได้ถึงความเสียวซ่านทั้งจากด้านหน้าและด้านหลังพร้อมกันแบบนี้


           “จีมิน มึง เบา หน่อย กู อ่า เจ็บ เจ็บ ตูด” ยุนกิเอ่ยบอกเสียงสั่น


           ยุนกิกระตุกเมื่อถึงฝั่งฝันก่อนที่จะรู้สึกอุ่นร้อนภายในกายเหมือนมีของเหลวเข้ามาอยู่ในตัว


           ของเหลว? แต่มันใส่ถุงยางนี่? หรือว่าที่เขาสงสัยมันจะ...


           “จีมินมึง” ยุนกิเอ่ยเรียกเสียงหอบ ตาเรียวปรืออย่างเหนื่อยอ่อนก่อนที่โลกจะมืดไปพร้อมกับรอยยิ้มที่มุมปากของจีมิน










🔼🔽🔼🔽🔼🔽🔼🔽🔼🔽











           “อื้อ” ยุนกิขยับตัวเมื่อรู้สึกได้ถึงอะไรเย็นๆที่หน้าผาก ตาเรียวปรือขึ้นพร้อมกับความร้าวที่แผ่ไปทั่วตัว


           “ตื่นได้แล้ว” ได้ยินเสียงแหบแห้งเอ่ยบอกพร้อมกับที่ใบหน้าของคนเมื่อคืนที่โผล่มาให้เห็น


           “ปวดตัว” ยุนกิบ่นงึมงำ


           “รู้ ตื่นมากินข้าวกินยา มึงเป็นไข้ตัวร้อน” ยุนกิได้ยินแต่ร่างกายมันขยับไม่ไหว


           “ช่วย กู หน่อย” ยุนกิเอ่ยบอกอีกคนเสียงเบา


           จีมินดึงยุนกิให้ลุกนั่งก่อนจะยกหมอนพิงหัวเตียงแล้วดันยุนกิไปนั่งติดหัวเตียง กลิ่นข้าวต้มหอมลอยมาจากโต๊ะที่ตั้งอยู่ข้างเตียง จีมินลากมันเข้ามาไว้ตรงหน้ายุนกิ


           “กินสะเดี๋ยวกูมา” พูดจบจีมินก็เดินออกไปจากห้อง ยุนกิได้ยินเสียงคนคุยกันอยู่หน้าห้องแต่มันอู้อี้จนฟังไม่ออก


           ยุนกิก้มลงมองตัวเองก็พบว่าเขาใส่เสื้อแขนสั้นสีชมพู พอเปิดผ้าห่มดูก็พบกางเกงขาสั้นเอวยืดสีชมพู ให้ตายไอคนเมื่อคืนมันแมนจริงๆใช่ป่ะ ดูสีชุดสะก่อน ไหนจะไอรถคิตตี้ของมันอีก ส่วนล่างรู้สึกระบมมากก็จริงแต่ไม่ได้รู้สึกเหนียวหรืออะไร ให้เดาจีมินคงทำความสะอาดให้แล้ว


           นึกถึงเรื่องนั้นแล้วก็โมโหขึ้นมา หมอนั้นแกล้งยุนกิชัดๆ ตอนที่ถอนตัวออกไปจีมินคงฉีกปลายถุงยางจนขาดแล้วใส่กลับเข้ามาอีกครั้ง


           โรคจิตชัดๆ





           ยุนกิกินข้าวกินยาเรียบร้อย แต่จีมินก็ไม่เข้ามาสักทีจนรู้สึกตัวอีกทีก็เพิ่งรู้ว่าตัวเองหลับไปอีกรอบ พอตื่นขึ้นมาอีกทีก็เห็นหลังเปลือยเปล่าของจีมินพร้อมกับส่วนล่างที่ใส่กางเกงบ็อกเซอร์ลายคิตตี้


           “ตื่นแล้วสิมึง” จีมินหันมาหายุนกิ ไม่อยากยอมรับหรอกแต่หุ่นไอบ้าคิตตี้นี่มันดีจริงๆนั่นแหละ ทั้งที่ตัวเท่าๆกับยุนกิแท้ๆ เพราะเมื่อคืนไม่มีเวลามาสังเกตอะไรเลยจำรายละเอียดอะไรได้ไม่มากนัก แต่จำอะไรได้ไม่มากก็ดีแล้ว น่าอายชะมัด


           “ไปกัน”


           “ไปไหน”


           “สนามแข่ง”


           “มึงจะเอากูไปพนันเหรอ” ยุนกิถามออกไปตามตรง แอบหวั่นใจนิดๆเหมือนกัน


           “หืม?” จีมินเลิกคิ้วพร้อมกับหยิบกางเกงยีนส์หนังสีดำแถบสีชมพูขึ้นมาใส่


           “ให้กูหายก่อนได้ไหม ยังไม่สบายอยู่เลย” ยุนกิต้องยอมอ่อนข้อให้อีกคนเพราะเขาไม่มีแรงจะรบหรือเถียงกับอีกคนแล้วจริงๆ


           “หมอมาดูมึงแล้ว เป็นไข้เฉยๆ ไม่ได้อะไรมาก” จีมินเอ่ยบอกพร้อมกับหยิบเสื้อยืดสีดำชมพูลายคิตตี้นักบิดขึ้นมาใส่


           “หมอ?”


           “มึงหลับเลยไม่รู้เรื่อง”


           “เฮ้อ” ยุนกิถอนหายใจยาว


           “เป็นอะไร ไม่ต้องกลัวตากลมหรอก กูเอารถยนต์ไป เดี๋ยวให้ลูกน้องเอารถมอไซต์ขึ้นกระบะไป” จีมินหยิบกางเกงสีดำขายาวพร้อมกับเสื้อหนังแขนยาวสีดำชมพูลายปีกนกมาทางยุนกิ


           “ลุกใส่เองได้ป่ะ”


           “ได้”


           “อืม” จีมินวางเสื้อผ้าลงปลายเตียงพร้อมกับที่ยุนกิขยับตัวมาปลายเตียงอย่างระมัดระวัง


           “แข่งเสร็จเดี๋ยวพาไปกินหนมหร่อยๆ” จีมินเอ่ยบอกในขณะที่หมุนดูตัวเองในกระจก


           “ห้ะ?”


           “ห้ะอะไรมึง”


           “ก็มึงจะเอากูไปพนันไม่ใช่อ่อ”


           “ใครบอกมึง”


           “ก็”


           “ให้ไปเป็นกำลังใจในฐานะเมียเหอะควาย”


           “เมีย....?”


           “หรืออยากเป็นผัว? แต่คงไม่ได้เนอะ เมื่อคืนมันก็ชัดเจนกันอยู่” จีมินยิ้ม


           “มึง...” ยุนกิขมวดคิ้วด้วยความงุนงง


           “โง่จังว่ะ ก็กูจะให้มึงเป็นเมียไง เมียที่ต้องอยู่กับกู ไปกับกูทุกที่อ่ะ” ยุนกิอ้าปากค้างด้วยความอึ้ง


           “ทำไม อึ้งอ่ะดิ ก็เงี้ยมีผัวหล่อ รวย แถมฉลาดอีก”


           “ใครบอกว่ากูจะเป็นเมียมึง”


           “เมื่อคืนก็ชัดเจนแล้วป่ะ มึงอย่ามาอ๋องกูขอร้อง”


           “สัส”


           “เอ่อปากดี อวดเก่ง สมเป็นเมียกูหน่อย”


           “พ่อมึง”


           “เอ่อเดี๋ยวได้เจอแน่พ่อตามึงอ่ะ”


           “จีมิน ไอเหี้ย”


           “อ่ะ เพิ่งเป็นเมียได้ยังไม่ถึงวันก็ด่าผัวแล้วนะมึงอ่ะ”


           “มึงมันสัส กวนตีน”


           “กวนตีนก็ผัวมึงแหละ อิอิ”


           “อิพ่อง” ยุนกิหยิบกางเกงมาใส่


           “ใส่เร็วๆเหอะ เดี๋ยวสาย”


           “สัสก็กูเจ็บ”


           “เออๆกูลืมไปกูหนักมือไปหน่อย ฮ่าๆ”


           “เหี้ยมาก”


           “จ้าเมียเหี้ย” จีมินยิ้มกว้าง








🔼🔽🔼🔽🔼FIN🔽🔼🔽🔼🔽


Give feedback here(ระบายความรู้สึก) ➡️
▶️แบบส่วนตัว DM ทวิตเตอร์ @incorrectminga
▶️แบบมันต้องสกรีมเข้าแท็ก #FOR2MINSF ตอนผัวคิตตี้
▶️หรือแสดงความคิดเห็นด้านล่างนี้ได้เลย⬇️







ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

#ผัวคิตตี้ pt.2

#คุณพ่อฝึกหัด